How old am I ?

วันอังคารที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2555

         เช้าวันพุธที่ 1 ส.ค.55 หม่าม๊ามีต้องไปซ้อมเป็นประชาสัมพันธ์เนื่องในวันสถาปนาหน่วย 6 ส.ค. ที่จะถึงนี้  แต่เมื่อตื่นขึ้นมาได้ยินป่าป๊าบอกว่าน้องอิงอุ่นน่าจะมีไข้  (บ้านเรามีอุปกรณ์ไฮเทค ซื้อมาเตรียมไว้ตั้งแต่น้องอิงอุ่นยังไม่เกิด เป็นที่วัดอุณหภูมิ 5 in 1)นี่ไง



                 เจ้าอุปกรณ์ตัวนี้  หลายพันนะนั่น  ขนาดลดราคาจากเซ็นทรัลแล้ว ก็ยังหลายบาทอยู่ แต่เพื่อลูกน้อยอิงอุ่นของเราก็ถอยมาพร้อม  ป่าป๊าวัดไข้น้องอิงอุ่นได้ 37.1 – 37.2  นั่นแสดงว่าน้องอิงอุ่นเริ่มมีไข้ แถมยังไอมาอีก 2 แค้ก 

                    ป่าป๊ากับหม่าหม๊าไม่รอช้า เก็บอุปกรณ์เตรียมตัวมาหาหมอกัน  หม่าม๊า โทรมาที่ 1772  ตอนแรกไม่ติด  แต่ในที่สุดก็เรียบร้อย เช็คแล้วว่า ป้าหมอขจรศรีซึ่งเป็นหมอประจำตัวเข้ามาตรวจตั้งแต่ 6.30 น.แล้ว   มาถึง โรงพยาบาลตอน 7 โมงกว่า นึกดีใจว่าวันนี้คิวไม่เยอะเลย สงสัยยังเช้าอยู่  รับบัตรคิวมา ได้เป็นคิวแรกเลย  แต่ว่าคุณหมอไปตรวจคนไข้ที่แอทมิทอยู่  ป่าป๊ากับหม่าม๊าก็รออยู่จน 7.40 ได้ 

                     คุณหมอก็มาตรวจ พอเห็นหม่าม๊าไม่สบายคุณหมอก็เลยบอกว่า เคยมีเคสที่คุณแม่ไม่สบายอย่างนี้ ปรากฏว่าลูกที่อยู่ในบ้านเป็นหวัดใหญ่ 2009  สายพันธ์ H1N1  โดยคุณหมอบอกว่ามีวิธีตรวจหาคือ การป้ายเสมหะที่คอ  ซึ่งวิธีทำแล็ปก็มี 2 แบบแบบแรกราคาประมาณ 1500 บาท  ซึ่งผลที่ได้อาจจะไม่ 100 %  ถ้าออกมาเป็น positive ก็ชัวร์เลยว่า เป็น แต่ถ้าออกมาเป็น Negative อาจจะต้องตรวจอีกตัวนึงซึ่งมีราคาประมาณ 2,500 บาท  แต่ความต่างกันคือ ตรวจตัวแรกใช้เวลาป้ายคอ แล้วรอฟังผลประมาณ 2-3  ชม. แต่ตรวจอันหลังจะต้องใช้เวลาประมาณ 24 ชม.  ตอนแรกป่าป๊ากับหม่าม๊ากะว่าจะตรวจอันหลังไปเลยเอาชัวร์  แต่ป้าหมอบอกว่า  จะแอทมิทเลยก็ได้  ถ้าแอทมิท เราตรวจอันแรกไปก่อน ค่าใช้จ่ายถูกกว่า  ถ้าเจอว่าเป็นจะได้ให้ยา ทามิฟูล ทานไปเลย  ก็เป็นอันว่า ชีวิตการนอน รพ.ครั้งที่ 2 จากการเจ็บป่วยของน้องอิงอุ่นก็เริ่มขึ้น  

                         คราวนี้เราได้ห้อง  764  ซึ่งอยู่เฉียง ๆ กับห้องอาบน้ำเช็ดตัวน้อง ๆ เลย  เมื่อมาถึงที่ห้องปรากฏว่าอิงอุ่นก็เปลี่ยนเสื้อผ้า  ยายยายและน้าดอย ก็เอากระเป๋าเสื้อผ้าขนสัมภาระที่จำเป็นมาให้  แล้วหม่าม๊าก็ต้องให้คุณยายกลับไปเพราะกลัวจะติดเชื้อหวัดจากหลานรัก 
Eng-Auun in uniform and Papa in Room no. 764 krub
                    หลังจากนั้นป่าป๊าก็ข้ามไปทำงานที่ช่อง 5  เราสองคนแม่ลูกก็เล่นกันอยู่ในห้องอย่างสนุกสนาน  มีเจ้าหน้าที่โทรมาตามให้หม่าม๊าไปหาหมอ  แต่ว่ายังไปไม่ได้หรอกนะ  ต้องรอป่าป๊ามากลับมาเล่นกับอิงอุ่นก่อนจนเกือบ 11.30 ป่าป๊าก็กลับมา  หม่าม๊าก็ไปตรวจวันนี้ได้ตรวจกับหมออายุรกรรม นพ.ทวิชฯ  ป้าหมอขจรศรีให้เอาผลตรวจของน้องอิงอุ่นไปด้วย  คุณหมอทวิชเลยไม่ต้องตรวจไรเพิ่มเลย จ่ายยามาให้หม่าม๊า 3 ตัว คือ Tamiflu  , consinut และ rhinophen c ซึ่งสองตัวหลังทานแล้วจะง่วงนอน วันนี้ค่ายาแพงมากเลย  2,086 บาทแน่ะ  ลดค่ายาไป 417 บาท  แต่รวมค่าเหยียบแผ่นดิน (ค่าบริการทางการพยาบาล 100, ค่าบริการทางการแพทย์100, ค่าตรวจรักษากรณีผู้ป่วยนอกอีก 400) เบ็ดเสร็จวันนี้จ่ายไป 2,269 บาทพอดี  ได้ยาเสร็จก็รีบขึ้นมาที่ห้อง   

                             ระหว่างรอหม่าม๊า อิงอุ่นก็เล่นอยู่กะป่าป๊า อย่างสนุกสนาน เหมือนเด็กไม่ป่วยเลยครับ แต่อยู่ๆ ป่าป๊าก็ตกใจ แล้วไปบอกพี่พยาบาลว่า น้องอิงอุ่นตัวร้อนไข้ขึ้นวัดไข้ได้ตั้ง 37.7  มี 38 ด้วย  ป่าป๊าก็เลยให้ขอพยาบาลเช็ดตัว แต่พยาบาลบอกว่าทานยาเลยก็ได้  ทีนี้ล่ะความวุ่นวายเริ่มเกิดขึ้น เพราะพอป้อนยาน้องอิงอุ่นก็อาเจียนยาออกมา  ส่วนพยาบาลที่มาใหม่ก็บอกว่าไข้ขึ้นอย่างนี้ต้องเอาไปเช็ดตัว (อ้าวก็ตอนแรกป่าป๊าก็ขอให้เช็ดตัวก่อนนี้หน่า) เลยวุ่นวายไปหมด  น้องอิงอุ่นก็ร้องไห้ในขณะนี้ไข้ก็ขึ้น  สูงที่สุดตั้งแต่เกิดมา  ต่อมาพวกพี่ ๆ พยาบาลและผู้ช่วยก็เอาน้องอิงอุ่นไปเช็ดตัว ทีแรกอิงอุ่นไม่ยอมเกาะหม่าม๊าแน่นเลย พี่พยาบาลก็พยายามเช็ดตัวให้ แล้วก็บอกให้หม่าม๊าจับให้น้องนอนเลย ไม่งั้นเช็ดตัวได้ไม่เต็มที่ ไข้ก็จะไม่ลง  หม่าม๊าตัดใจวางอิงอุ่นลงและถอยออกมา 2 ก้าว  อยู่ในระยะที่ยังมองเห็น แต่ระหว่างนั้นน้องอิงอุ่นก็ยังร้องเรียกหาแต่ หม่าม๊า หม่าม๊าดังตลอดเวลา ถ้าใครมาอยู่ในเหตุการณ์จะรู้เลยว่า เวลาลูกเจ็บป่วย พ่อแม่ป่วยแทนเองได้ก็คงทำไปแล้ว  เช็ดตัวได้สักพัก พี่พยาบาลก็ส่งน้องอิงอุ่นมาให้หม่าม๊า ตอนนี้ยังไม่ได้ใส่เสื้อผ้า แต่หม่าม๊าสังเกตว่าน้องอิงอุ่นตัวสั่น ก็บอกพยาบาล คราวนี้เกิดความอลหม่านขึ้นมาอีกครั้ง  ป่าป๊าก็อุ้มน้องอิงอุ่นแล้วบอกว่า พอแล้วก็ได้  เพราะตอนนี้น้องอิงอุ่นร้องไห้หนักขึ้นอีก  แต่หม่าม๊าก็ไม่รู้จะทำยังไง ในแต่ใจคิดว่า เราอยู่ รพ.ที่น่าจะดีที่สุดสำหรับลูกแล้ว ทุกคนในห้อง ณ เวลานั้นก็ตั้งใจช่วยกันเต็มที่  มือไม้ขวักไขว่กันไปหมด  แล้วมีคนนึงขอเช็ดตัวน้องอิงอุ่นอีกรอบ หม่าม๊าก็เลยขอให้ป่าป๊าส่งน้องอิงอุ่นให้พี่เค้าไป  หม่าม๊ากับป่าป๊าแอบมีโกรธกันตอนนี้ด้วย เนื่องจากเวลานั้นเราต่างคนต่างประเมินเหตุการณ์ต่างกัน  แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ด้วยความรักของป่าป๊าและหม่าม๊า ที่มีต่ออิงอุ่น ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี  ป่าป๊าต้องรีบกลับไปทำงาน  น้องอิงอุ่นก็ได้รับการเช็ดตัวอีกประมาณ 15 นาที  ไข้ก็ลดลง เหลือ 36.8   ช่วงบ่ายถึงจะป่วย น้องอิงอุ่นก็ยังคงเล่นสนุกสนานเช่นเคย แต่หม่าม๊าแอบกังวลใจ กลัวไข้จะขึ้นมาอีก ก็เลยวัดไข้น้องอิงอุ่นทุก ๆ 10 นาทีไปเลย  มีหน้าแตกด้วยนะจะบอกให้  มีอยู่ครั้งนึงก็วัดที่หน้าผากแล้ว ก็ยังอยากวัดที่หู ยังไม่พอใจ วัดที่คออีก  วัดที่รักแร้บ้างก็คงดี  ปรากฏว่าวัดที่คอ ได้อุณหภูมิ 37.8 อีกแล้ว ทำไงดีๆๆ รีบเลยค่ะ รีบอุ้มลูกวิ่งไปที่เคาน์เตอร์พยาบาล ขอให้เค้าวัดไข้ให้ แถมบอกเค้าด้วยนะ เมื่อกี้วัดได้เกือบ 38  แน่ะ  พยาบาลเอาเทอร์โมมิเตอร์มาวัด  ปรากฏผลดังนี้คร้าบบบบบบบบบบ  คุณแม่  36.8 โหหหหหหหหห  โล่งอกเลย ถึงแม้จะหน้าแตกแต่ผลออกมาแบบนี้  ดีใจมากกว่าอยู่แล้นนนนนนนนน

                ตอนเย็นป่าป๊ามาก็มีน้อยใจหม่าม๊าบ้างนิดหน่อย แต่หม่าม๊าไม่งอนป่าป๊าหรอก  เข้าใจ ป่าป๊ารักลูก รักอิงอุ่นมากๆๆๆ(จำไว้เลยนะลูก)  ไม่รู้ว่าจะมีผู้ชายซักกี่คนทำได้แบบป่าป๊า  เห็นหน้าป่าป๊าตอนอิงอุ่นไข้ขึ้นแล้ว หม่าม๊ายังกลัวอยู่เลย ป๊าหน้าตาซีเรียสมาก ๆ  แต่เอาเถอะ ตอนนี้เราก็ต้องลุ้นกันต่อไปว่าอาการน้องอิงอุ่นจะเป็นอย่างไร  ป่าป๊ากับหม่าม๊าก็เกี่ยวก้อยกันเหมือนเดิม  ป่าป๊ากลับไปบ้านไปเอาของอีกนิดหน่อย  หม่าม๊าก็อยู่กับอิงอุ่นคอยลุ้นระทึกตัวเลขตอนวัดไข้ต่อไป  (ถ้าเป็นคอหวย สงสัยจะเหมือน วันที่ 1 กับ 16 อ่ะ เวลาคนมาวัดไข้ทีก็ชะเง้อมองตัวเลขเลย ว่าเลขที่ออกต่ำกว่า 37 มั้ย ถ้าต่ำกว่าก็ถอนหายใจไป แต่ถ้าสูงกว่ายาลดไข้เลยคร้าบผม)  สรุปว่า น้องอิงอุ่นต้องทานยา ทามิฟลู เช้า เย็น  เวลามีไข้ก็ทานเทมปราแต่ถ้าไข้สูงตอนที่ 38 นั้น หมอให้ทาน บูโน่ (เขียนถูกป่าวเนี่ย รู้แต่ว่าสีส้ม ๆ ทานแล้วอยู่ได้นาน  6 ชม.)  แล้วก็มียาแก้ไออีกหนึ่งตัว  ตัวหลังนี้ทานหลายครั้งแล้ว 
                การป่วยครั้งนี้ของน้องอิงอุ่นโชคดีอย่างนึง ที่ไม่มีอาการเจ็บคอร่วมด้วย ทำให้ทานโจ๊กได้ดี ทานได้เยอะเกือบทุกมื้อเลย  และก็ไม่ซึมด้วย  วิ่งร่าเริงสนุกสนานกับการดูรถไฟฟ้า กับ ดูม้าวิ่ง (พล.ม.๒) ได้ทั้งวัน  คืนแรกผ่านไปด้วยดี  พี่พยาบาลและผู้ช่วยมาวัดไข้ให้ทุกชั่วโมง  ผลคือ ไข้ไม่สูงนัก ไม่เกิน 37.5 ซักครั้งนึง    วันรุ่งขึ้นก็ทำกิจวัตรเหมือนเดิม วันนี้เป็นวันอาสาฬหบูชาด้วย  น่าเสียดายจังทุกปี เราเคยได้ไปถวายเทียนที่วัด   แต่หม่าม๊าก็รอบคอบนิดนึง ในเมื่อทำเองไม่ได้ ก็โทรไปวานป้าพร แม่พี่มุกไข่อีกแล้ว ให้ช่วยหาเทียนให้และฝากทำบุญให้ด้วย  (ย้ำด้วยว่า อย่าลืมเขียนชื่อเราสามคนด้วยนะ)  ซึ่งพี่พรก็ทำให้อย่างเรียบร้อย ขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยเจ้า เดี๋ยวกลับบ้านต้องเอาตังค์ไปคืน เพราะเป็นเงินทำบุญ ต้องเป็นของเราเอง

                เป็นอันว่าเหตุการณ์ในวันทีก็ผ่านไปอีกวันนึงครับ แต่ยังไม่จบนะครับวันต่อมาก็ยังมีเรื่องตืนเต้นให้ป่าป๊ากะหม่าม้า วิ่งวุ่นอีก เหตุการณ์นั้นคืออะไรก็ค่อยอ่านต่อตอนหน้านะครับ

0 comments:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม


จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

ขับเคลื่อนโดย Blogger.