How old am I ?

วันอาทิตย์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2555
       สวัสดีครับ ทุกท่าน อิงอุ่นใกล้ 2 ขวบเข้าไปอีกเดือนนึงแล้วนะครับ วันที 6 ส.ค.55 นี้ก็จะหย่อน 2 ขวบไปแค่ 1 เดือนเดียวเท่านั้น เรื่องราวเดือนนี้ ที่จะเล่าให้ฟังเป็นเหตุการณ์น่าตื่นเต้นที่อิงอุ่นต้องเข้านอนในโรงพยาบาลเป็นครั้งที่ 2 นับตั้งแต่ลืมตามาดูโลกใบนี้นะครับ เชิญติดตามได้เลยครับ (อาจจะหลายตอนหน่อยนะคับ เพราะหม่าม้ามาช่วยถ่ายทอดด้วยครับ)         
       เหตุการณ์เริ่ม เมื่อวันเสาร์ที่ 28 ก.ค.55 ที่ผ่านมา หม่าม๊ากลับไปสอนหนังสือที่อยุธยาตามปกติ อ้อ! ป่าป๊าทำหน้าที่เป็นพลขับที่ดีและเป็นครูที่ยอดเยี่ยมของเด็ก ๆ เช่นเคย ระหว่างทางหม่าม๊าก็คิดถึงเพื่อนๆ ต่างวัยของหม่าม๊า ซึ่งเป็น แก็งค์ที่คบกันเพราะหม่าม๊าสอนลูก ๆ ของป้า ๆ กลุ่มนี้มา 10 กว่าปีแล้ว หม่าม๊าก็เลยโทรไปชักชวน เชื้อเชิญ บีบบังคับ ให้ทุกคนมาทานข้าวกัน ซึ่งสมาชิกที่มาได้ในวันนี้ได้แก่ ป้ารัตนา คุณแม่ของพี่บอย (พี่บอยไม่ได้มาวันนี้ เพราะขี่มอเตอร์ไซด์เอาคางไปวัดถนน) โกบอส แพทย์หนุ่มปี1 รูปหล่อ เจ๊แบมสาวงาม ต่อมาก็บ้านป้าพร แม่ของพี่มุกไข่และพี่ท้อป วันนี้มีแต่พี่มุกไข่เพราะพี่ท้อปไปเรียนพิเศษง่ะ และครอบครัวสุดท้าย ป้าเปิ้ลและพี่นีโน่ขวัญใจสาวๆ เราตกลงทานอาหารกันที่ร้านครัวแม่แตงกวา (ใน อ.เสนา คงมีร้านนี้ร้านเดียวล่ะลูกที่แม่ ๆ ทุกคนจะเลือกทานกัน เพราะมีอะไรรู้มั้ย ทุกคนบอกว่า เพราะมีแอร์ น้องอิงอุ่นจะได้ไม่โดนยุงกัด เห็นมั้ยใคร ๆ เค้ารักหนูกันขนาดไหน) ตอนเย็น หกโมงกว่าๆ ป่าป๊าหม่าม๊า และหนูน้อยอิงอุ่น ก็ไปสั่งอาหารรอป้า ๆ และพี่ๆ ทุกคนที่ร้าน ซักพักทุกคนก็มากันครบองค์ประชุม อาหารที่ทานกันวันนี้ก็หลายอย่างมาก ๆ หม่าม๊าชอบทานอาหารไทยอ่ะ แล้วอิงอุ่นล่ะครับ โตขึ้นจะชอบทานอาหารชาติไหน ไม่รู้แต่ตอนนี้ หม่าม๊ากะป่าป๊าเห็นหนูทานแต่โจ๊กทุกมื้อเลย น้ำซุปอีกด้วย ไม่เบื่อเลยครับ  ระหว่างที่ทานกันไปก็พูดคุยกันไปอย่างสนุกสนาน (หม่าม้ากะป่าป๊าและป้าๆ คุยกัน อิงอุ่นวิ่งเล่น) จน 2 ทุ่มกว่า ๆ ก็ต้องล่ำลากันซะแล้ว คาดว่าเพราะทุกคนคงห่วงน้องอิงอุ่น เดี๋ยวจะนอนได้น้อย พอกลับมาถึงบ้าน ป่าป๊าก็พาน้องอิงอุ่นเปลี่ยนเสื้อผ้า ส่วนหม่าม๊ารู้สึกไม่ค่อยสบายตัวขึ้นมาเฉย ๆ อยู่ ๆ ก็รู้สึกแสบคอเหมือนทานอาหารที่มีผงชูรสเยอะ แล้วก็จามเหมือนจะเป็นหวัด คืนนั้นก็ไม่คิดอะไรมาก คิดว่าเดี๋ยวก็คงจะหาย แต่ช่วงกลางคืนรู้สึกหนาว หนาวแบบสั่นๆ ขึ้นมาเฉยๆ ก็แปลกใจตัวเองเหมือนกันว่าเป็นอะไร แต่ด้วยความแข็งแรง และรูปร่างอันกำยำของหม่าม๊า ก็คิดอีกว่า เดี๋ยวเช้าคงหาย
        พอช่วงเช้าวันนี้มีการวางแผนการกันเล็กน้อย ป่าป๊าต้องไปสอนหนังสืออีกตึกนึง ส่วนหม่าม๊า อิงอุ่นและยาย ๆ ได้รับมอบภารกิจสำคัญจากป่าป๊าให้ไปเฝ้าตึกใหม่ที่กำลังจะเปิด อีกอย่างหนึ่งคือ ป่าป๊าไม่อยากให้น้องอิงอุ่นไปอยู่ตึกที่นักเรียนเยอะ ๆ กลัวเรื่อง โรคมือ เท้า ปาก วันอาทิตย์นี้เราก็วิ่งเล่นกันในตึกใหม่อย่างสนุกสนาน อิงอุ่นเลยไม่ยอมนอน ตั้งใจจะรอป่าป๊ามากล่อมนอน ป่าป๊าก็สอนหนังสือกว่าจะเสร็จก็ประมาณบ่ายสองโมง หม่าม๊าก็บอกว่า เรากลับกทม.กันเร็วหน่อยเถอะ วันนี้มีสอบ กพ. ถ้ารอเย็นรถน่าจะติดหนัก ครอบครัวเราแวะทานอาหารที่ร้านสามเสนวิลล่ากัน แต่ปรากฏว่าทานได้นิดเดียว ก็เลยห่อกลับมาทานที่บ้าน ตอนนี้ใกล้จะถึงเวลาที่หม่าม๊าจะแสดงอาการไม่สบายออกมาแล้ว ไม่น่าเชื่อเลยว่า พอกลับมาถึงบ้าน น้องอิงอุ่นอาบน้ำเรียบร้อย อยู่ ๆ หม่าม๊าก็รู้สึกเพลีย ๆ ขึ้นมาซะเฉย ๆ ปวดเนื้อปวดตัวไปหมด แต่ก็อีกแล้ว คงไม่เป็นไร คืนนั้นก็นอนหนาว ๆ ปวดหัวตัวร้อน จามกันไป
        จนเช้าวันจันทร์ต้องไปทำงาน แต่ก็รู้สึกว่าเรานี่ท่าจะไม่สบายแล้วนะ พอไปถึงที่ทำงานหม่าม๊าก็ไปทำงานตามปกติ แต่ซักพักรู้สึกไม่ค่อยดี อยากนั่งเฉย ๆ จังหวะดีที่ป่าป๊าโทรมาพอดี หม่าม๊าก็เลยอ้อนเลยว่า ใกล้เที่ยงแล้ว ไม่ฉะบาย อยากทานข้าวต้มร้อน ๆ ที่โรงเรียนเสธ ป่าป๊าแสนจะจัดดี ก็จัดให้ตามที่ขอ ก็ไปนั่งทานข้าวต้มหมูโดยมีป่าป๊านั่งดูคอยให้กำลังใจ (ไม่แย่งหม่าม๊าทาน อิๆๆ) พอทานเสร็จกลับมาทำงานตามปกติ แต่พอบ่ายแก่ ๆ หม่าม๊าก็ปวดหัว ตัวร้อนขึ้นมาอีกแล้ว ก็พอดีที่วันนี้ป่าป๊ามีนัดตรวจกับคุณหมอชุมพลพอดี หม่าม๊ากับป่าป๊าก็เลยนั่งรถไป รพ.พระมงกุฎกันสองคน นั่งคุยกันกระหนุงกระหนิงเลย เพราะนานๆ จะได้ไปไหนกันสองต่อสอง (น้องอิงอุ่นใจดีเปิดโอกาสให้นะครับ) พอได้เวลาตรวจป่าป๊าตรวจเสร็จรับยาลดไขมันและใบตรวจเลือดมา ไม่รอช้าป่าป๊ารีบฟ้องหมอเลยว่า คนนี้ไม่สบาย ช่วยให้ยาด้วย คุณหมอชุมพลก็ไม่รอช้าด้วย ตรวจหม่าม๊า ฟังปอดหม่าม๊าด้วย แถมตอนตรวจเสร็จแอบกดพุงหม่าม๊าด้วยน๊า สงสัยจะติดใจพุงหยุ่น ๆ ของหม่าม๊า พอลงมารับยา หม่าม๊าก็ได้ยาอันเป็นยาพื้นฐานของคนที่เป็นหวัดทั่วไปพึงจะได้ เช่น พารา ยาแก้อักเสบ คลอเฟนิลามิน กลับมาบ้าน ทานข้าวแล้วก็ทานยา แต่คืนนี้หม่าม๊ากลายเป็นบุคคลน่ารังเกียจไปซะแล้ว ทุกคนลงความเห็นให้หม่าม๊าไปเข้าเขตกักกันโรค(นอนห้องคุณยายคนเดียว) ส่วนป่าป๊าต้องกลับไปเข้าเวรที่ช่อง 5 พอหม่าม๊ามาที่ห้องคุณยาย คืนนี้นอนไม่หลับเลย อาการปวดเนื้อปวดตัวเกิดขึ้นอีกแล้ว รู้สึกว่าตัวเองไข้ขึ้น จะออกไปข้างนอกก็เกรงใจยายยาย ได้ยินแต่เสียงน้องอิงอุ่นหัวเราะแว่ว ๆ แต่ก็ไม่รู้อะไร มีอาการหลับ ๆ ตื่นๆ ทั้งคืน พอเช้ามาลุกไม่ไหวเลย ก็เลยโทรไปลากับคุณลุง ผอ. ช่วงเช้าก็นอนทั้งวัน ก็รู้สึกดีขึ้นเป็นพัก ๆ พอช่วงบ่ายเริ่มสบายตัวขึ้นมาก ๆ ความซ่าส์ก็เริ่มมา หม่าม๊าก็เลยขับรถไปสุพรีมเลย จริง ๆ คือต้องมาโอนสตางค์เข้า ธ.ออมสิน เสร็จแล้วก็ซื้อหนังสือที่ร้าน ซีเอ็ด ได้หนังสือมาตั้งหลายเล่มแน่ะ เป็นเรื่องเกี่ยวกับ กองทุน หุ้น การเขียน แอ๊ป ๆ อะไรประมาณนี้น่ะจ๊ะ ไม่รู้แอ๊บอะไรเหมือนกัน แต่หม่าม๊าว่าเอามาก่อนเหอะ มีประโยชน์กับป่าป๊าแน่ ๆ ป่าป๊าเป็นยอดมนุษย์เรื่องของเทคโนโลยี ตอนนั้นก็ยังไม่มีอาการอะไรอีก ขากลับหม่าม๊าแวะไปเซ็นงานที่ทำงาน พอกลับไปบ้าน อ้าว ไหงปวดหัวตัวร้อน ปวดตามกล้ามเนื้อร่างกายขึ้นมาอีกแล้วล่ะเนี่ย ช้านเป็นอะไรกันแน่เนี่ย ซักพักป่าป๊ากลับมา ก็บอกว่า ถ้ายังไม่ดีขึ้นจะพาไปหาหมอนะ หม่าม๊าได้ฟังดังนั้น ก็รีบตอบไปทันใด โอ๊ย ป๊าจ๋า ไม่เป็นไรมากหรอก เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปหาหมอที่ทำงานก็ได้ คืนนี้ก็หลับไปอย่างทรมานอีกคืน ทรมานคือ มันจะรู้สึกหนาว ๆ สั่น ๆ ปวดเมื่อยตามตัว ปวดหัวร่วมอีก ทำให้จะนอนก็นอนไม่หลับ กระสับกระส่ายจนกว่ามันจะเช้า
      เอาละ เหตุการณ์สำคัญที่ทำให้ หม่าม๊าและอิงอุ่นต้อง มา check in ที่พญาไท กันแทนที่จะไป Centara ลาดพร้าวก็เริ่มขึ้นเมื่อเวลา 6 โมง 40 นาทีของวันพุธที่ 1 ส.ค.นั่นเองเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป สรุปแล้วหม่าม้าเป็นอะไร แล้วอิงอุ่นเกี่ยวข้องอย่างไร คอยติดตามตอนที่ 2 นะครับ ฉบับนี้ ไปก่อนนะครับ

0 comments:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม


จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

ขับเคลื่อนโดย Blogger.