How old am I ?

วันพฤหัสบดีที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2554
วันที่ 23 ม.ค.54 หม่าม้ากะป่าป๊า วางแผนพาอิงอุ่นไปทะเล เรียกยุทธการนี้ว่า "Operation Touch sand and sea"

ภารกิจเริ่มขึ้น เวลา 1330 ของวันที่ 23 ม.ค.54 หม่าม้าจับอิงอุ่นแต่งตัวชุดหล่อ ไปๆมาๆ หม่าม้ากะป่าป๊ามาแต่งตัวเข้า Set กับอิงอุ่นด้วยเฉยเลย เลยกลายเป็นครอบครัวสีขาว-ส้มกันไป เริ่มพาอิงอุ่นออกเดินทาง ไม่นาน ประมาณ ชั่วโมงครึ่ง เวลา 1500 อิงอุ่นก็ถึงที่หมายเป็น ห้อง Suite ของ โรงแรม The Tide Resort บางแสน เป็นที่เรียบร้อย มาถึงก็ถ่ายภาพสักหน่อย


ถ่ายกะหม่าม๊าในห้อง Suite
หลังจากอิงอุ่นเดินดูห้องนอนก็พบว่าเขาวางพี่ช้างไว้บนเตียงด้วยแบบนี้


แบบนี้ต้องถ่ายรูปกับพี่ช้างสักหน่อย

ตอนแรกอิงอุ่นก็ถ่ายของหนูอยู่ดีๆ ป่าป๊ากะหม่าม้าเข้ามาแจมด้วยใหญ่เลย

แต่อิงอุ่นไม่ได้นอนบนเตียงใหญ่หรอกครับ โรงแรมเขาเตรียมเตียงไว้ให้ผมแล้วน่ารักมากๆ


บริเวณสระน้ำ
มุมต่างๆของโรงแรม

.......................จบภารกิจวันแรกหลังเข้านอน.......................

24 ม.ค.54 (วันเริ่มปฏิบัตการ)

มี VDO หม่าม้ากะป่าป๊าพาผมไป(ดูเขา)กินข้าวด้วยครับ


 


และแล้วเวลาสำคัญก็มาถึง ดูภาพการปฏิบัติภารกิจของหนูน้อยอิงอุ่นได้เลยครับ

 

*****Mission Accomplished*****

สถานภาพหลังปฏิบัติภารกิจ "พร้อมปฏิบัติการต่อไปครับผม"
 บทเรียนจากการรบ (การเที่ยว)
1. โรงแรมเตรียมที่นอนให้ เด็กไว้เมื่อร้องขอ แต่ที่นอนมีซี่ๆเต็มเลย ก็เลยกลัวว่าจะเอามือเอาขาเข้าไปขัด ครั้งต่อไปไม่ลำบากนักเตรียมไปเองจะดีกว่า
2. ขวดนมแพ็คใส่ถุงZip lock ไป 3 ขวด หวุดหวิดไม่พอ ดีว่าหม่าม๊าบริหารจัดการเก่ง คราวหน้าเอาไปเยอะๆ ก็ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม
3. อิงอุ่นเริ่มกินนมได้ทั้งๆที่ยังอยู่ใน Car Seat เป็นสัญญานว่ามี ระยะปฏิบัติการเพิ่มขึ้นแล้ว (คราวหน้าพาไปพัทยาซะเลย อิอิ)

วันจันทร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2554
สวัสดีครับ ลุงป้าน้าอาพี่น้อง ป่าป๊าและหม่าม้า
    ขอบคุณนะครับที่สอบถามอาการป่วยของอิงอุ่นอย่างต่อเนื่อง (เพราะอิงอุ่นดันไปเขียนไว้ตอนอายุเต็ม 4 เดือนว่าป่วยเป็นหวัด)  ตอนนี้หายแล้วครับ แต่การเจ็บป่วยของอิงอุ่นครั้งนี้ก็ทำให้ ป่าป๊าและหม่าม๊ามีวรยุทธในการต่อสู้กับการดูแลเพิ่มมากขึ้นอีกหลายกระบวนท่าเลยครับ
   วันนี้ผมขอเล่าเรื่องราวของการเจ็บป่วยครั้งแรก(ที่เกิดจากเจ้าเชื้อหวัด)ในชีวิตของผมดังนี้นะครับ

สาเหตุ
   สาเหตุสำคัญที่ทำให้เจ้าเชื่อหวัดเข้ามาทำร้ายผมได้คงเนื่องจากช่วยปลายปีเป็นช่วยที่อากาศเปลี่ยนแปลงนะครับอย่างที่ทุกคนรู้ เชื้อหวัดก็แพร่กระจายไปทั่วอยู่แล้ว ประกอบกับช่วยปีใหม่ป่าป๊ากะหม่าม้าก็เริ่มเห็นว่าผมตัวโตขึ้น(โตกว่าเด็ก 4 เดือนทั่วไป) ก็เลยคิดว่าแข็งแรงแล้ว (ลืมนึกไปว่าโตยังไงผมก็ 4 เดือนอยู่ดี) เลยพาไปเที่ยวด้วยซะหลายทีทั้ง Central ลาดพร้าว, เมืองทองธานี, งานเลี้ยงปีใหม่ที่ทำงานหม่าม้า ฯลฯ สุดท้ายอิงอุ่นก็ป่วย ไม่รู้ว่าไปรับมาจากงานไหน เพราะไปที่ไหน แก้มยุ้ยๆ ของอิงอุ่นก็ดึงดูดใจให้คนที่หม่าม้ากะป่าป๊ารู้จักให้เข้ามาหอมทุกทีไป เชื้อหวัดเลยเข้ามาทางแก้มผมแน่ๆเลยครับ

อาการ
    จริงๆอาการของอิงอุ่นในทัศนะของผมก็ไม่ค่อยร้ายแรงอะไรนะครับ แต่ป่าป๊ากะหม่าม้าซิท่าจะป่วยมากกว่าที่ผมเป็นอีก คืนวันที่ 30 ม.ค.53 อิงอุ่นเริ่มมีอาการตัวร้อน (ป่าป๊าบอก) หายใจไม่สะดวก (หม่าม้าบอก) แล้วก็ไอด้วย(ยายบอก)

การรักษา
       พอตื่นเช้าวันที่ 31 ม.ค.53 ก็เลยวิ่งไปหาป้าหมอกัน แต่มันเป็นวันหยุดครับ หม่าม้าเช็คป้าหมอขจรศรี ที่เคยดูแลอิงอุ่นมาตลอดปรากฏว่าหยุดปีใหม่ไปแล้วจะมาอีกทีก็ 3 ม.ค.54 โน้นเลย อีกตั้งหลายวัน หม่าม้าเห็นที่ไม่ดีเลยไปหา คุณหมอที่อยู่ รพ.ใกล้บ้านก่อนดีกว่า
     ปรากฏว่ามาถึงพยาบาลก็วัดไข้ก่อนเลย ผลคือไม่มีไข้ (อ้าวววว ป่าป๊ามั่ว) แล้วก็มารอเจอหมอ แต่... แย่แล้ว... พอเจอหมอ ป้าหมอก็ป่วยนี้น้า แล้วยังมาตรวจอิงอุ่นอีก จริงๆหม่าม้ากะว่าจะอุ้มอิงอุ่นออกมาเลยทันทีที่เห็นป้าหมอป่วยแต่เกรงใจเลยปล่อยให้ตรวจ (ระหว่างตรวจป่าหมอก็ไม่คาด Mask ด้วย) กลายเป็นว่า พอหาหมอเสร็จ ป่าป๊ากะหม่าม้า กลับมากลุ้มใจมากกว่าเดิมว่าอิงอุ่นจะไปรับเชื้ออะไรมาเพิ่มอีกหรือปล่าวเนี้ย
     แต่ก็ได้ยามาทานนะครับ 2 อย่าง คือ Miotin (ยาแก้อักเสบ) กับ Rhinathiol (ยาแก้ไอ) : Miotin ป้าหมอให้ทาน วันละ 3 ครั้งๆ ละ 3 ซีซี 7 วันแล้วโยนทิ้งไปเลย ส่วน Rhinathiol วันละ 3 ครั้งๆละ 3 ซีซีเหมือนกันจนกว่าจะหาย ปรากฏว่ามีปัญหาจากความเข้าใจผิดของป่าป๊าเกี่ยวกับ Miotin ดังนี้ครับ
     เภสัชกรเขาเขียนที่ข้างขวดยามาว่า "ให้เติมน้ำต้มสุกที่เย็นแล้วให้ถึงขีดแล้วเขย่าให้ละลาย" ป่าป๊าเลยเติมน้ำถึงขีดแล้ว เขย่าปรากฏว่าพอยาละลาย น้ำยาก็ลดลงมาไม่ถึงขีด ป่าป๊าก็สงสัยอยู่แต่อ่านแล้วก็ป่าป๊าก็เลยใช้ป้อนอิงอุ่นเลย ป้อนไป 2 วัน ( 5 ครั้ง) ป่าป๊าเริ่มสังเกตว่ายามันไม่น่าจะพอกินได้ 7 วันตามหมอสั่ง เลยมาอ่านภาษาอังกฤษข้างขวดแทน ถึงรู้ว่าให้ผสมจนกว่าจะถึงขีดนี้เพื่อให้ได้ 60 ซีซี อ้าววววว แล้วทำไมภาษาไทยเขียนแบบนี้ละครับ ป่าป้าเลยหยุดยาก่อนแล้วก็ไปซื้อขวดใหม่มาผสมใหม่

...นี้เป็นข้อควรระวังอย่างนึงครับ เพราะยาที่ได้จาก รพ. ไม่เคยมีเอกสารกำกับยาแนบมาด้วย ทำให้ข้อมูลของยาที่สำคัญบางอย่าง คนไข้ก็ไม่ทราบ จะทราบได้ก็จากการบอกผ่านมาทางผู้จ่ายยา บางที ยาก็เยอะคนรับยาก็จำได้ไม่หมดก็มี ยิ่งยาเด็กยิ่งอันตรายมากๆ...

     หลังจากผ่านไป 2 วัน อาการอิงอุ่น ไม่ดีขึ้นแถมน้ำมูกมากจนหายใจไม่ออกสะดุ้งตื่นกลางดึกอีกวันที่ 2 ม.ค.54 อิงอุ่นเลยไปหาหมออีกรอบคราวนี้ไป รพ.พญาไท 2 เจ้าเก่าเลยครับ พอดีเจอป้าหมอขจรศรี ใจดีคนเดิมพอดี อิงอุ่นเลยมายิ้มให้ป้าหมอหวานๆ ก่อนให้ป้าหมอใจดีตรวจ
     กระบวนท่าแรกที่ ป้าหมอถ่ายทอดให้หม่าม้าคือ "ลูกยางแดงดูดน้ำมูกจอมรำคาญ" ป้าหมอก็เอาลูกยางมาดูดน้ำมูกออกมาเป็นสีเขียวอี๋ๆๆๆๆ ซึ่งป้าหมอบอกว่าแสดงว่าเชื้อที่ทำให้มีน้ำมูกยังไม่หมด ส่วนอาการไอก็ยืนยันว่าคอยังแดงอยู่มาก เลยให้กินยาต่อ แต่ไหนเอายามาดูซิ พอเห็นยาป่าหมอก็ตกใจ แทบลมใส่ "..ทำไมให้น้องทานตั้งอย่างละ 3 ซีซีเลยเหรอค่ะ ถึงจะหนัก 7 โลกว่าตัวโตเท่าเด็ก 7 เดือน ก็ยังเป็นเด็ก 4 เดือนนะคะ ลดเลย ลดเลย เอาไปอย่างละ 1.5 ซีซีพอ.." อ้าววววว แล้วป่าป๊าจะไปรู้กะหมอไหมเนี้ย (เครื่องหมาย ? ผลุดมาเต็มหัวป่าป๊าเลยแล้วที่กินไปแล้วจะเป็นอะไรไหมเนี้ย)
     5 วันต่อมาวันที่ 7 ม.ค.54 ครบ 7 วันที่กิน Miotin มา อาการอิงอุ่นยังไม่ดีขึ้น ระหว่างนี้ อิงอุ่นโดนป่าป๊าบ้างหม่าม้าบ้างให้กระบวกท่าลูกยากดูดจมูกทุกวัน (ร้องไห้ทุกวันเหมือนกัน) ป้าหมอขจรศรีดูอาการแล้วก็บอกว่า ครบ 7 วันแล้ว Miotin ต้องหยุดแล้ว แต่ไม่ดีขึ้นสงสัยไม่ถูกกะยา เอายาใหม่ไปเลย ชื่อว่า OMNICEF เอาไปกินอีก 7 วันๆ ละ 1 ครั้ง ๆ 2.5 CC ก่อนกินให้ผสมน้ำเหมือนกัน (เอาอีกแล้ว ป่าป๊านึกในใจ) แต่พอไปรับยาปรากฏว่าที่ รพ.นี้เขาบอกว่ายาผสมน้ำให้แล้วไม่ต้องไปผสมอีก อ้าวววว ดีจัง แล้วทำไม ไม่ทำให้เหมือนกันทุก รพ.ละ ไม่งั้นคราวที่แล้วป่าป๊าไม่งงหลอก แต่ก็ยังไม่มีเอกสารกำกับยามาให้อยู่ดี
     เจ้ายาตัวใหม่นี้กินยากเอาการเลยครับผม เพราะจะไปทำปฏิกิริยากับธาตุเหล็กในนม เลยให้กินก่อนอาหาร 1 ชม.หรือหลังอาหาร 2 ชม. นี้แหละครับที่ยากเพราะตอนนี้ไม่มีมื้อไหนเลยที่อิงอุ่นสามารถเว้นระยะห่างระหว่างมื้อนมได้ 3 ชม. ป่าป๊านอนกลุ้มใจไปวันนึ่งเลยตกลงใจว่าเอามื้อเช้าตอนตื้นนอนนี้แหละเพราะตอนนี้อิงอุ่นจะตื้นมากินนมตอนตี 3 แล้ว 6 โมงจะตื้น เอาเป็น 6 โมงป้อนยาซะเลย แล้ว พาอิงอุ่นเล่นให้ลืมๆ นมไปก่อนรอให้ 7 โมงค่อยกิน เท่านี้ป่าป๊าก็หลอกอิงอุ่นกินยามาได้จนครบ 7 วันเลยครับ
    มาหาป้าหมออีกที่วันที่ 15 ม.ค.54 อิงอุ่นแทบไม่มีน้ำมูกแล้ว ไอก็นานๆที่ ป้าหมอก็เลยบอกว่า OMNICEF ให้หยุดได้แล้ว(เย้ ป่าป๊าท่าจะดีใจเป็นพิเศษ เพราะยากลำบากกับการป้อนยาตัวนี้จริงๆ)  แต่ยาแก้ไอให้กินต่อจนกว่าจะหมดอาการ พอดียาแก้ไอเดิมก็หมดไปแล้วแต่ป่าป๊าไปซื้อยาใหม่มา เป็นCISTEINE ป้าหมอบอกใช้แทน Rhinathiol ได้เพราะเป็นตัวยาเดียวกันความเข้มข้นเท่ากัน  ต่างที่ยี่ห้อเท่านั้น (เหมือน ไทลินอล กับ ซาร่า ครับผม)

สุดท้ายกว่าจะหายอิงอุ่นก็อยู่กับเชื้อหวัดตัวร้ายนี้กว่า ครึ่งเดือนเลยครับ ตลอด 2 สัปดาห์กว่านี้อิงอุ่นอดอาบน้ำเลย ต้องมาเช็ดตัวกันทุกวันโดยป่าป๊าเป็นคนทำให้ครับ ลองดูภาพคนป่วยถูกเช็ดตัวนะครับ (น่ารักไหมเอย)



สรุป อิงอุ่นก็ผ่านประสบการณ์การเป็นหวัดครั้งแรกในชีวิตมาได้ แม้จะเป็นหวัดตลอดเวลาที่เป็น อิงอุ่นก็ร่าเริงเหมือนเช่นทุกวัน พัฒนาการก็ไม่ได้หยุดชะงักลงแต่ประการใด เพราะมี คุณยาย ป่าป๊าและหม่าม้าคอยดูแลเป็นอย่างดี ขอบคุณทุกคนที่เอาใจใส่จนผมหายเป็นปกตินะครับ แต่ป่าป๊าบอกว่าหายเมื่อไหรจะต้องโดนฉีดวัคซีนนี้ซิ น่ากลัวจังเลยยยยยย

น้ำหนักชั่งเมื่อ 16 ม.ค.54 : 7740 g ยังพุ่งเลยเกณฑ์อย่างต่อเนื่องครับผม (แม้จะป่วยก็ตาม) :P
วันเสาร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2554
เรียน พี่ๆ น้องๆ วัยใกล้เคียงกับอิงอุ่นนะครับ

   ในที่สุดอิงอุ่นก็สามารถพลิกตัวคว่ำได้เป็นครั้งแรก อาจจะยังไม่ค่อยสวยงามเท่าไหร่ แต่เป็นการค้นพบท่าคว่ำสไตล์ของผมเอง นะครับ เลยอยากจะมานำเสนอเพื่อพี่ๆน้องๆ เพื่อนที่ยังไม่คว่ำจะได้นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์นะครับ
   เอาละนะครับ ขั้นตอนการพลิกคว่ำก็มีด้วยกัน 4 ขั้นตอนนะครับ
      ขั้นที่ 1 : ให้หันมายิ้มสวยๆน่ารักๆ ให้คนถ่าย VDO ก่อนในที่นี้เป็นป่าป๊าผมเอง
      ขั้นที่ 2 : ก็ยกขาขึ้นแล้วเหวี่ยงไปด้านข้าง เลยครับเพื่อเข้าสู่ท่านอนตะแคง
      ขั้นที่ 3 : หลังจากนอนตะแคงได้อย่างมั่นคงแล้ว ก็ให้เหยียดตัวออก พร้อมกับโน้มไหล่ไปข้างหน้า
      ขั้นที 4 : ขั้นนี้ยากสุดเลยครับ เพราะอิงอุ่นคิดอยู่นานว่าจะยกหัวหนักๆของผมขึ้นมาได้ยังไง ในที่สุดก็นึกได้ว่าก็ไม่ต้องยกก็ได้นี้ ใช้วิธีซุกหน้าไปกับที่นอน เพื่อให้คอสูงขึ้นก็ได้ผลเหมือนกัน

      และแล้วก็ทำทั้ง 4 ขั้นตอนได้เป็นผลสำเร็จ มาดูภาพการพลิกตัวแบบ 4 ขั้นรวดเลยนะครับ

   
       เป็นไงครับ พี่ๆ น้องๆ ทำได้ไหมครับ ใครยังมีปัญหาก็เขียนมาถามได้เป็นการส่วนตัวนะครับ แต่ตอนนี้ผมเองมีปัญหาว่า ผมจะเอามือซ้ายที่ถูกทับอยู่ออกยังไงดี   "แงงงงงงงง ป่าป๊า! ช่วยด้วยครับบบบบ"
วันอาทิตย์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2554
ถึง ป่าป๊า กะ หม่าม้า ครับ
      และแล้วอิงอุ่นก็ผ่านเดือนที่ 4 มาเป็นที่เรียบร้อย อิงอุ่นขอสรุปเรื่องราวตลอด 1 เดือนที่ผ่านมาเป็นเรื่องๆดังนี้นะครับ
1.การทัศนศึกษาในสถานที่ต่างๆ
    เดือนนี้หม่าม้ากะป่าป้า ใจดีมากๆ พาอิงอุ่นไปเที่ยวตั้งหลายที่เลยครับ การไปโชว์ตัวในงานเปิดตัวกางเกงผ้าอ้อม Mamy poko pants size "S" เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.53 นะครับ มีวิดีโอมาฝากด้วยนะครับ หม่าม้าน่ารักมากเลยครับ



บทความที่ได้รับความนิยม