How old am I ?

วันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2554
สวัสดีครับทุกๆท่าน
      ในเดือนที่ประชาชนชาวไทยต่างประสบความเดือนร้อนจากอุทกภัยครั้งใหญ่กันทั่วหน้า อิงอุ่นก็ลำบากเหมือนกันครับ เพราะป่าป๊า กะหม่าม้า ไม่สามารถไปทำงานที่อยุธยาได้ตามปกติ และยังต้องเตรียมการเผชิญกับสถานการณ์น้ำท่วมในกรุงเทพฯอีก แต่ด้วยความฉลาดของหม่าม้า ได้เตรียมเครื่องยังชีพสำหรับอิงอุ่นไว้อย่างมากมาย (จนตอนนี้ยังใช้ไม่หมดเลยครับ) ประกอบด้วย น้ำดื่ม ผ้าอ้อม นมผง อาหารกระป๋อง ข้าวสาร ม่าม้า ฯลฯ โชคดีที่บริเวณที่พักอาศัยของเราน้ำไม่ท่วม ข้าวขอทั้งหมดจึงถูกนำมาใช้ในอัตราปกติ  และผ่านพ้นช่วงแห่งความวิตกกังวลไปได้ด้วยดี
     แต่ในทุกวิกฤตมีโอกาส เนื่องจากป่าป๊ากะหม่าม้าไม่สามารถไปทำงานในช่วงวันหยุดได้ ทำให้เดือนนี้ทั้งเดือนเป็นเวลาแห่งการทัศนศึกษาของผมโดยเฉพาะ อิงอุ่นได้ไปหลายที่เลยครับ ทั้งการไปช่วยหม่าม้า บรรจุอาหารช่วยเหลือผู้ประสบภัยในฐานะอาสาสมัครคนดีของสังคม ได้ไปเที่ยวสยามพารากอนซึ่งไม่ได้ไปเลยตั้งแต่อิงอุ่นยืนได้ และยังได้ไป TK Park ที่เป็นที่เล่นใหม่ของอิงอุ่นอีกด้วย
ที่ สยามพารากอนครับ

ไปอ่านหนังสือที่ TK Park ครับ ได้เจอสาวๆด้วย



     ในเรื่องพัฒนาการของอิงอุ่นเดือนนี้ก็เป็นไปตามปกติครับ อิงอุ่นแข็งแรงดี ไม่มีอาการเจ็บไข้ได้ป่วยอะไร การเดินที่เห็นล้มลุกคลุกคลานอยู่บ้างหลังจากเริ่มปล่อยมือเดินเมื่อเดือนก่อน ก็ไม่มีให้เห็นอีกเลย กลายเป็นเด็กเดินคล่องแคล้ว ได้ทั้งเดินหน้าถอยหลัง side step ข้ามเครื่องกีดขวาง (หม่าม้ามานอนขวางทำตัวเป็นเครื่องกีดขวางให้ผมปีน) ลุกปั๊บเป็นต้องวิ่ง ทำเอาป่าป๊าเหงื่อตกตลอดเวลา  แต่ที่สำคัญคือเรียก ป่าป๊ากะหม่าม้าได้แล้วด้วยนะครับ ฟังดูนะครับ




    การไปหาป่าหมอครั้งต่อไปคงเป็นการไปฉีดวัคซีน ประมาณกลางเดือนนะครับ ก่อนจากกันเดือนนี้ มาดูการเล่นระหว่างผมกับป่าป๊าก่อนซักครู่นะครับ






แล้วคอยมาติดตามพัฒนาการของผมต่อเดือนหน้านะครับ

ขอบคุณครับ
วันพุธที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554
สวัสดีครับ ตอนนี้ครบ 1 ขวบ 2 เดือนแล้วครับ หลังจากป่วย จนต้องไปนอนโรงพยาบาลมา 5 วัน ช่วงนี้เป็นเวลาที่ต้องสะสมน้ำหนักกลับมาให้เหมือนเดิมก่อนที่จะเติบโตต่อไปนะครับ ตอนนี้อิงอุ่นก็มีน้ำหนัก 11.4 กก.แล้วครับ ถ้าดูจากกราฟ ก็จะอยู่ประมาณขอบบนนะครับ แต่ไม่ทะลุไปเหมือนตอนเด็กๆ อีกแล้วล่ะครับ

      พัฒนาการเด่นของอิงอุ่นเดือนนี้คงไม่พ้นเรื่องการเดินที่อิงอุ่นทำได้ดีจะสามารถก้าวได้อย่างมั่นคงแล้วนะครับ มาดูพัฒนาการเป็นขั้นเป็นตอนของการเดินของผมเลยนะครับ



ไว้เจอกันใหม่เดือนหน้านะครับ
วันเสาร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2554
สวัสดีครับทุกท่าน
    นี้ก็เลย 1 ขวบ 1เดือนมาเล็กน้อยครับ อิงอุ่นบังเอิญมีธุระต้องไปพักต่างสถานที่มา ซักพักเลยทำให้เขียนบันทึกช้าไปนิดหน่อยนะครับ

    เดือนนี้ผมของเปิดการเริ่มต้นขวบใหม่ของผมโดยการ เปลี่ยนทรงผมก่อนเลยครับ เพราะป่าป๊าไม่ยอมให้หม่าม้าตัดผมอิงอุ่นจนกว่าจะครบ 1 ขวบ พอครบปั๊บ หม่าม้าก็จับกรรไกรมาจัดการทันที โดยมีคุณยายช่วยจัดการต่อจากหม่าม้าอีกเล็กน้อย ผลก็เป็นอย่างที่เห็นข้างล่างนี้แหละครับ
น่ารักขึ้นเยอะเลยใช่ป่ะครับ (แต่ป่าป๊าไม่คิดอย่างนั้นครับ)

   ถึงทรงผมจะเปลี่ยนไป แต่เดือนนี้อิงอุ่นมีความสามารถเพิ่มขึ้นมากมายเลยครับ ค่อยๆดูไปตาม VDO ข้างล่างนี้เลยครับ

1) ความสามารถด้านการติดต่อสื่อสารกับผู้อื่น



2) ความสามารถด้านการเคลื่อนไหว

จริงๆแล้วตอนนี้ อิงอุ่นเดินเก่งกว่านี้แล้วนะครับ แต่ป่าป๊าไม่ยอมถ่ายให้ผมสักที ไว้เดือนหน้าจะมา update นะครับ

3) ส่งท้ายมาดูวิธีการใส่รองเท้าของผมนะครับ




เอาล่ะครับวันนี้คงแค่นี้ก่อนดีกว่า พอดีเดือนนี้อิงอุ่นปิดท้ายเดือนได้ไม่ดีเท่าไหรต้องเปลี่ยนสถานที่ไปนอนที่โรงพยาบาลมาหลายคืน ไว้จะเล่าให้ฟังต่อไปนะครับ ขอบคุณที่ติดตามครับผม

วันจันทร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2554
สวัสดีครับ วันนี้มีบันทึกคั่นเวลาก่อน ครบ 13 เดือนนะครับ นั้นคือ ทริปไปห้วหินครับผม

    เรื่องก็มีอยู่ว่า ป่าป๊ากะหม่าม้ารวมหัว เอย ลงความเห็นกันว่า ในช่วงปลายปีงบประมาณนั้น งานที่ทำงานของป่าป๊าและหม่าม้าค่อนข้างจะผ่อนคลาย จึงเหมาะแก่การลาไปเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง


ว่าแล้วหม่าม้าก็กำหนดแผนการเดินทางไปหัวหินในทันใด โดยกำหนดเดินทางวันที่ 19-21 ก.ย.54 เป็นเวลา 3 วัน 2 คืน

วันที่ 19 ก.ย.54

และแล้ววันที่รอคอยก็มาถึง ที่พักของพวกเราในทริปนี้คือ Sofitel Centara Grand Resort & Villas


แผนที่ Sofitel Centara Grand Resort & Villas ครับผม
เริ่มออกเดินทาง ตอน 1100 ไม่นาน ประมาณ 1330 ก็ถึงที่พักแล้วครับ ความจริงน่าจะถึงเร็วกว่านี้แต่ต้องจอดพัก ให้อิงอุ่นเติมพลังที่ จ.เพชรบุรี ก่อน จึงเดินทางต่อไปยังที่หมายอย่างปลอดภัย

พอเข้าถึงที่พักก็มีพี่ๆ พนักงานมาตอนรับอย่างอบอุ่น เที่ยวนี้เรานอนที่ห้อง 285 เป็นบรรยากาศในห้องก็อย่างที่เห็นในภาพนะครับ

บรรยายกาศในห้องพักครับผม


พอเข้าห้องพักเสร็จสรรพ หม่าม้าก็บอกข่าวดีกับสมาชิกทุกคนของทริปนี้ว่า เราได้สิทธิ์ไปกิน Tea Break ฟรีด้วยตอน 1400 เหรอ เหรอ .. ดีจังเลย ป่าป๊าบอกพร้อมน้ำลายพานจะไหล  แล้วก็ไปกินกันเป็นอันประหยัดมื้อเที่ยงไป 1 วัน

Tea break


หลังจากทานเสร็จก็ได้รับข้อมูลต่ออีกว่าตอนเย็นก็มี Cocktail and Canapé แถมให้อีกนะครับตอนเย็น ป่าป๊าท่าจะดีใจ แต่อิงอุ่นเฉยๆ (ก็ผมกินได้แต่อาหารขวดที่หม่าม้าเตรียมมานี้ครับ) สรุปว่าวันนี้ไม่ต้องไปไหนกันเลย 


แต่ที่อิงอุ่นชอบมากๆ คงเป็นบันไดในห้องพักนี้แหละครับ (พอดีที่บ้านไม่มีบันไดครับ) ว่าแล้วต้องปีนโชว์สักหน่อย






20 ก.ย.54


วันนี้อิงอุ่นตื่นเช้ามาก็ทานอาหารขวด(อีกแล้ว) แล้วก็ไปเดินเล่นรอบสระว่ายน้ำและสวนที่สวยงาม ระหว่างรอหม่าม้ากะป่าป๊าทานข้าวเช้า(ฟรีอีกแล้ว) เพื่อเตรียมเดินทางไปยังที่หมายสำคัญของวันนี้คือ "วัดห้วยมงคล" ที่ประดิษฐาน ของ หลวงปู่ทวดองค์ใหญ่


ระยะทางจากที่พักไปวัด ก็แค่ 18 กม. แต่อิงอุ่นเผลอหลับไปตอนออกเดินทาง หลับไป 2 ชั่วโมงตื่นมายังไม่ถึงวัดเลยครับ โห๋........ มันใกลจังละครับป่าป๊า 


ป่าป๊าเลยอธิบายให้อิงอุ่นฟังว่า พอดีหม่าม้าเห็นอิงอุ่นหลับสบาย เลยไม่กล้าปลุก ก็เลยให้ป่าป๊าขับไปเรื่อยๆก่อน ขับไปขับมาก็ 2 ชั่วโมงนี้แหละ


อิงอุ่นว่าหม่าม้าใจร้ายจังนะครับป่าป๊า แล้วป่าป๊าขับไปไหนมาบ้างละครับ  อ้อออ.... ก็ไม่ไปไหนไกลหรอกลูก
 
  • ออกจากโรงแรม 
  • ไปวัดห้วยมงคล - ยังไม่ตื่น
  • กลับรถ ไปน้ำตกป่าละอู เจอทางแยกไป ไร่องุ่นหัวหิน ฮิลล์ เลยเลี้ยวไป
  • ถึงหัวหิน ฮิลล์ - ยังไม่ตื่น 
  • กลับรถ ออกมา ไปวัดห้วยมงคลอีกรอบ 
  • ถึงวัดห้วยมงคล - ยังไม่ตื่น
  • ขับออกจากวัด ไป ตลาดน้ำสามพันนาม 
  • ถึงตลาดน้ำ -ยังไม่ตื่น 
  • ขับวนตลาด 1 รอบ แล้ว กลับมาวัดห้วยมงคล
  • ถึงวัดห้วยมงคล อิงอุ่นตื่นพอดี
นี้แหละเราถึงได้มาถึงที่วัด ป่าป๊าบอกว่าวันนี้ขับรถเท่าเมื่อวานเลย ถ้าขับตรงกับกรุงเทพป่านนี้ถึงไปแล้ว !!!!


แต่ป่าป๊ากะหม่าม้าก็ได้ทำตามความตั้งใจในการพาอิงอุ่นมาไหว้หลวงปู่ทวดได้สำเร็จ


ไหว้พระที่วัดห้วยมงคลครับ


จากนั้นก็กลับมาโรงแรมทำภารกิจสำคัญประการต่อไปคือการพาอิงอุ่นไปเหยียบน้ำทะเลรอบที่ 2 ในชีวิตครับ



21 ก.ย.54
เมื่อคืนอิงอุ่นหลับสนิทไม่ตื่นเลยจนเช้า พอตื่นมาก็ต้องเตรียมตัวเดินทางกลับกันแล้ว หลังป่าป๊ากะหม่าม้าทานข้าวเช้า อิงอุ่นก็เลยถือโอกาสหลับสักหน่อยเป็นครั้งสุดท้ายที่ห้องแสนสบายนี้ ว่าจะหลับหน่อยเดียวอิงอุ่นตื่นเอาบ่ายเลยครับ เดือดร้อนหม่าม้าต้องขอ Check Out late กับพี่พนักงานใจดีสะอีก 

ก่อนเดินทางกลับป่าป๊ากะหม่าม้าก็พาอิงอุ่นไปเที่ยวที่ "เพลินวาน" ครับ  เป็นสถานที่รำลึกความหลังของป่าป๊ากะหม่าม้าสมัยยังเด็ก ที่อิงอุ่นไม่ค่อยเข้าใจครับ แต่อิงอุ่นได้วิ่งเล่นเดินเล่นกับพี่สาวคนสวยสนุกไปเลยครับที่นี้






จากนั้นก็เดินทางกลับ กทม.โดยสวัสดิภาพ และมีความสุขครับผม

วันอังคารที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2554
    สวัสดีครับ ตอนที่อิงอุ่นเขียนอยู่ Blog อยู่นี้นะครับเป็นเวลา 2349 นาที ของวันที่ 6 ก.ย.54 ถ้าย้อนไป 1 ปีที่แล้วก็คือเวลาที่อิงอุ่นเกิดนั้นเองครับ
   วันนี้ถือเป็นวันเกิดปีแรกของอิงอุ่น ป่าป๊า กะหม่าม้าเลยจัดกิจกรรมต่างๆ นานาให้อิงอุ่นมากมายตั้งแต่เช้าเลยครับ ดังนี้นะครับ
  •    0700 พาอิงอุ่นไปใส่บาตร

  •    1600 เวลามอบของขวัญ

  •    1730 เลี้ยงฉลองวันเกิด 
บรรยายกาศในงานเลี้ยงวันเกิดปีแรกของอิงอุ่น
     ความจริงภาพยังมีอีกเยอะเลยครับ แต่ตอนนี้อิงอุ่นง่วงแล้ว ไว้จะทยอยลงให้ แฟนๆอ่านกันที่หลังนะครับ



วันนี้สิ่งที่อิงอุ่นลืมไม่ได้เลย ก็คือ ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา อิงอุ่นต้องขอบคุณทุกๆ คนที่เฝ้าดูแลมาโดยตลอด โดยเฉพาะหม่าม้าที่เมื่อวันนี้ของปีที่แล้ว ต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อให้อิงอุ่นเกิดมาได้อย่างมีความสุข และยังคอยดูแลจนผมแข็งแรงได้ถึงวันนี้ ขอบคุณนะครับหม่าม้า มีความสุขมากๆนะครับ

    วันอาทิตย์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2554

    แป็บเดียวอิงอุ่นอายุครบ 11 เดือนไปเรียบร้อยแล้วนะครับตั้งแต่วันที่ 6 ส.ค. แต่ อิงอุ่นมั่วแต่สนุกอยู่กับความสามารถใหม่ๆอยู่จนลืม มา update ให้ฟังกันต้องขออภัยนะครับ อีกไม่กีวันก็จะครบขวบแล้ว ตอนนี้เลยขอเขียนเฉพาะช่วงเดือนที่ 11 ก่อนนะครับ

    พูดถึงความสามารถของอิงอุ่นแล้วตอนนี้ทำได้เยอะแยะเลยครับ พูดไปจะหาว่าผมโม้ มาดู VDO ที่ป่าป๊าหม่าม้าถ่ายไว้เป็นหลักฐานดีกว่าครับ

    • ความสามารถแรก ป่ะปากได้ครับ
       


    • ความสามารถต่อไปได้แก่ การทำตา ping ping



    • และนี้เป็นการทำคอเอียงมองแบบน่ารัก น่ารักครับ


    • นอกจากนี้ยังมีความสามารถได้การปีนป่ายไปเอาของแปลกปลอมบนหัวผู้คนได้ด้วยครับ

    • ส่วนความสามารถเดิมคือการพลิกลิ้นทำลิ้นตั้งๆ ในปาก ก็ยังทำได้อยู่นะครับ
     


    เดือนนี้น้ำหนักอิงอุ่นขึ้นน้อยมากเมื่อเทียบกับเดือนก่อนๆ น้ำหนักเมื่อครบ 11 เดือนอยู่ที่ 10 Kg (บวก-ลบเล็กน้อย) เองครับ จากกราฟก็คงเห็นว่าขนานไปกับเกณฑ์บนนะครับ ยังไม่มีแนวโน้มจะอ้วนขึ้นแต่อย่างใด แต่ความสูงซิครับตอนนี้ยาวมากๆเลยครับ
    น้ำหนัก ตอน 11 เดือน 10.0 kg ครับ

    เดือนนี้วันที่ 15 ก.ค.54 เป็นวันหยุด 3 วันครับ หม่าม้าเลยพาไปเที่ยวที่ Funarium อยู่แถวๆพระราม 4 ครับ เป็นที่เล่นสำหรับเด็กๆ สนุกมากเลยครับ ป่าป้าบอกว่าถ้าว่างเมื่อไหร่จะมาพาอิงอุ่นมาอีก 



    ต่อมาในวันที่ 16-17 ป่าป้ากะหม่าม้าก็พาอิงอุ่นออกต่างจังหวัดไปเที่ยวกันอย่างสนุกสนาน แต่เรื่องมันยาวครับไว้เล่าคราวหน้านะครับ





    วันเสาร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
    วันนี้บังเอิญ อิงอุ่นไปเจอรูปป่าป๊าตอนเด็ก มาเลยเอามาเทียบ กับอิงอุ่นตอนนี้ดู ดูยังไงอิงอุ่นก็น่ารักกว่า เห็นด้วยไหมครับ


    ใครน่ารักกว่ากันครับ ผม Vs ป่าป๊า (ตอนเด็ก)
    วันพุธที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
    ครบเดือนอีกแล้วครับ นี้ก็เป็นเดือนที่ 10 แล้วนะครับ

        เดือนนี้เริ่มต้นเดือนไม่ค่อยดีเท่าไหรครับ เพราะต้องไปหาหมอมาถึง 2 ครั้งตามที่เล่าให้ฟังแล้วนะครับ แต่หลังจากนั้น ทุกอย่างก็ราบรื่นดีครับ เดือนนี้ผมก็เลยจะมาเล่าเรื่องราวที่ผ่านมาให้ฟังนะครับผม

        การพัฒนาการด้านร่างกายนะครับ เดือนนี้อิงอุ่นน้ำหนักขึ้นน้อยมากเลยครับ ขึ้นมาแค่ 2 ขีดเอง มาอยู่ที่ 9.8 กก.นะครับ (แต่ก็ยังอยู่ขอบบนนะครับ จะบอกให้)

          มีเรื่องเล่าคราวที่ไปมาป้าหมอคราวก่อนนะครับ พอดีผมก็หิวขึ้นมา ป่าป้าเลยป้อนนมให้ตามปกติ ป้าหมอบอกว่า "ทำไมยังป้อนเหมือนน้องอายุ 2 เดือน เลย 9 เดือนกว่าแล้วทำไมไม่จับเอง" อ้าวก็ผมไม่รู้นี้ว่าต้องจับเองด้วย กลับมาผมเลยมาฝึกใหญ่เลย ก็เลยทำได้แล้วครับ
    ไม่ต้องมีคนช่วยจับขวดแล้วนะครับ

        
    ส่วนความสามารถด้านการเคลื่อนที่นะครับ ก็สามารถไปได้เร็วขึ้นแล้วครับ


    แต่เนื่องด้วยพอผมคลานได้ ผมก็เลยคลานไม่หยุด เล่นเอาคุณยาย หม่าม้า ป่าป๊า ไล่จับกันสนุก หม่าม้าเลยออกแบบเครื่อง จำกัดการเคลื่อนย้ายของผม เป็นแบบนี้แหละครับ

    หม่าม้าจะจับผมใส่ตะกร้าล้างน้ำ เหรอครับ?

       นอกจากนั้นผมก็กำลังพยายามบริหารปากเพื่อเตรียมออกเสียงอยู่นะครับ ท่าบริหารใหม่ที่ผมเพิ่งค้นพบก็เป็นแบบนี้นะครับ
    ลิ้นแบบไหนน่ารักที่สุดครับ

         ด้านสังคม เดือนนี้ ป่าป้ากะหม่าม้า ลงทุนลางานพาอิงอุ่นไปไหว้พระครับ เรื่องของเรื่องคือ ตอนอิงอุ่นอยู่ในท้องหม้าม้า หม้าม้ากะป่าป๊า ไปบอกกับหลวงพ่อโสธร ที่ จ.ฉะเชิงเทรา ว่าถ้าอิงอุ่นและหม่าม้าปลอดภัย จะพาอิงอุ่นมาถวายไข่ 100 ฟอง เวลาผ่านมา 10 เดือนแล้ว อิงอุ่นก็แข็งแรงพอจะไปไหนไกลๆ ได้แล้วเลยได้ฤกษ์พากันมากราบหลวงพ่อท่านซักที


         เป็นอันสิ้นสุดกิจกรรรมประจำเดือนนี้นะครับ แต่ก่อนจะจากกันไป อิงอุ่นของแสดงความยินดีกับพี่หลิง ที่ได้เป็นมหาบัณฑิตคนใหม่ ที่เพิ่งรับปริญญาไปหมาดๆนะครับ (จังหวะนี้อิงอุ่นเลยถือโอกาส แต่ตัวหล่อมาถ่ายรูปด้วยซะเลย)


    เอาละครับ เดือนนี้พอแค่นี้ก่อนนี้กว่า ไว้มีอะไรคืบหน้าจะมา update ต่อเป็นระยะๆ นะครับ สวัสดีครับ
    วันเสาร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2554
    สวัสดีครับ

          หลังจากฉีดยาประจำเดือนที่ 9 มาได้ไม่นาน อิงอุ่นก็ป่วยซะอีกแล้ว น่าจะติดมาจากการที่ไปเล่นกับพี่ๆ ที่ รร.ป่าป๊า กะหม่าม้า ช่วงเสาร์อาทิตย์ นะครับ (เด็กเป็นร้อย คงจะติดมาจากพี่คนใดคนหนึ่งครับ)  

         อาการก็เหมือนเดิมครับ คือ มีน้ำมูก ไข้ต่ำ ไอ เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.54 ไอมากจนอ้วก ออกมา 2 ครั้ง ป่าป๊ากะหม่าม้าตกใจเลยรีบพาไปหาป้าหมอเลยครับ แต่พอถึง รพ. อิงอุ่นก็นึกสนุกขึ้นมาเลยยิ้มไปทั่วไม่เหมือนเป็นเด็กป่วยซักนิด วัน ป้าหมอตรวจแล้วก็เลยให้ยา มา 2 อย่างครับ
    • Miotin (Midecamycin Acetate) เจ้าเก่าครับ กินมาเป็นขวดที่ 3 แล้วครับ
    • AMBLOXOL Syrup ยาแก้ไอลดเสมหะ
        ยาแรกนี้ ป้าหมอให้กินครั้งละ 3 ซีซี แล้ว เยอะที่สุดเท่าที่เคยคิดมาเลยครับ วันละ 3 ครั้ง ต้องกินให้ครบ 7 วันด้วย แม้จะหายแล้วก็ตาม ส่วนเจ้ายาตัวที่สองนี้หมอบอกว่าถ้าไม่ไอก็ไม่ต้องทาน ปรากฏว่าทั้งขวดป่าป๊าป้อนแค่ครั้งเดียว อิงอุ่นก็ไม่ยอมไออีกเลย สรุปก็เลยไม่ได้กินอีกเลย


    หลังจากผ่านไปได้ 2 วัน อิงอุ่นก็โดนยุง หรือ มดไม่รู้ (ป่าป๊า Identify ไม่ได้) ทำเอาตาบวมเลย ตอนเช้า บวมน้อยๆ พอตกเย็น บวมน่าตกใจเลยครับ




    ต้องไปหาป้าหมออีกแล้ว เลยได้ยามาเพิ่มอีก
    • HYDROXYZINE Syrup เป็นยาแก้แพ้
    ป้าหมอบอกว่า ยาจะไปลดอาการคัน ทำให้การอักเสบหายเร็ว พอกลับมาป่าป๊าอ่านฉลากบอกว่า เป็นยาแก้แพ้ ลดน้ำมูก แล้วก็อาจจะง่วงซึม ป่าป๊า ก็ลองป้อนดู 1 ครั้ง ปรากฏว่าเย็นนั้นอิงอุ่นนอนหลับสบายมากเลยครับ (สบายจนป่าป๊าสงสัย) สรุปว่าจะง่วงซึมมากไปซะแล้ว ป่าป๊าก็เลยไม่ป้อนอีกเลย กลัวจะหลับอีก  
         2 วันต่อมาก็หายสนิทเหมือนในภาพข้างบนแหละครับ

    ตอนนี้เป็นอันว่า หวัดก็หายแล้ว ตาก็หายแล้ว อิงอุ่นกลับมา คลานทั่วบ้านได้เมื่อเดิมแล้วครับ
    วันอาทิตย์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2554
    สวัสดีครับ  ครบ 9 เดือนตั้งนานแล้วแต่เพิงจะได้มีเวลามาเขียนนะครับ

        อิงอุ่นครบ 9 เดือนไปตั้งแต่วันที่ 6 มิ.ย.แล้วนะครับ แต่พอดีต้องติดตาม ป่าป๊ากะหม่าม้าไปสอนพี่ๆ ทุกอาทิตย์เลย ไม่ค่อยมีเวลามาเขียนนะครับ อาจจะช้าไปหน่อยต้องขออภัยนะครับ เอาละเข้าเรืองเลยดีกว่านะครับ


        เดือนที่ 9 นี้จะพูดไปอิงอุ่นก็มีความเก่งขึ้นตามลำดับนะครับ ที่เด่นๆ คงจะเป็นการคลานของอิงอุ่นนะครับ ตามที่ได้ ลง vdo  ให้ชมกันไปแล้ว ป่าป๊า ใส่เสียงเพลงซะอย่างกับ ผ่านการฝึกซ้อมมาเป็นเวลานานเลย ที่จริงปาป๊าก็บอกว่า ก็รอนานจริงๆนี้ ลุ้นมาตั้งหลายเดือน ใครที่ยังไม่เคยดู คลิกที่ลิงค์นี้เลยนะครับ  http://www.youtube.com/watch?v=6QFpIcyij7w



         ตามมาด้วยการพูดภาษาเฉพาะของผมอย่างที่ได้สาธิตไปแล้วเช่นกัน  นอกจากนี้อิงอุ่นยังสามารถนั่งทรงตัวได้ดีมากขึ้น ถ้านั่งอยู่แล้วล้มเองโดยไม่ตั้งใจอย่างที่เคยเป็นในเดือนก๋อนๆ ตอนนี้คงหายากแล้วละครับ (แต่ล้มแบบตั้งใจให้ ป่าป๊า หม่าม้า คุณยาย ตกใจเล่น ก็มีบ่อยๆ)


         จากทีบอกว่านั่งได้อย่างมั่นคงแล้ว ทีนี้ความท้าทายต่อไปของอิงอุ่นก็คงจะเป็นการยืนครับผม แต่มันยากจัง ยังพยายามอยู่ครับผม ดูที่พอทำได้ก่อนนะครับ ถึงจะยากแต่ก็สนุกดีครับ



        ปิดท้ายเดือนนี้ด้วยการไปฉีดวัคซีนนะครับ เดือนนี้ฉีดได้ตรงเวลา ไม่ต้องเลือนเพราะป่วยเหมือนคราวก่อน ก่อนฉีดก็ดำเนินกรรมวิธีเหมือนเดิม ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง แต่คราวนี้ผมเริ่มมีความจำแล้วว่าถ้ามาแบบนี้จะเจออะไร เลยร้องเสียงหลงเลยครับ








        แต่นั้นก็แค่ตอนเตรียมตัวนะครับ พอฉีดจริงๆคราวนี้ผมร้องนิดเดียวเอง เพราะเก่งแล้ว (ก็ฉีดแล้วก็เลยพูดได้ ก่อนฉีดมันน่ากลัวนี้ครับ)





         สรุปน้ำหนักตอนนี้ ก็ 9.6 kg นะครับ วกกลับเข้ามาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ค่อนไปข้างบนเหมือนเดิม ต้องขอบคุณหม่าม้ามากๆครับ ที่ยังพยายามให้ ผมกินนมหม่าม้า 100% อยู่ทั้งๆที่หม่าม้าก็ไม่ค่อยมี ต้องตื่นมากลางดึกปั้มให้ผมทุกวันตลอด 9 เดือน ไม่เว้นแม้แต่วันเดียว ขอบคุณหม่าม้ามากๆครับ

    น้ำหนัก 9.6 กก.แล้วครับ

    ไว้พบกันใหม่นะครับ
    วันพุธที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
    สวัสดีครับ
        อิงอุ่นหายหน้าไป 1 เดือนเต็ม เพื่อใช้เวลาในการเจริญเติบโตอยู่นะครับ นี้ก็ครบ 8 เดือน แล้วมาติดตามการพัฒนาการของ ผมกันนะครับ

    เริ่มจากสภาพร่างกายก่อนเลยนะครับ ตอนนี้ผมมีน้ำหนักประมาณ 9 กิโลแล้วครับ ถ้าดูจากกราฟน้ำหนักข้างล่างจะเห็นเส้นสีฟ้า ที่เป็นน้ำหนักของผมเข้ามาอยู่ในช่วงระหว่างขอบบน(สีเขียว) และขอบล่าง(สีแดง)ของน้ำหนักเด็กไทยมาตรฐานแล้วนะครับ หลังจากที่เคย Over weight อยู่ 2-3 เดือน

        สำหรับพัฒนาการด้านร่างกายอื่นของผม ก็เป็นไปตามปกตินะครับ ยังไม่มีความสามารถใหม่เกิดขึ้นแต่ก็มีการพัฒนาด้านความสามารถเดิมๆที่เก่งขึ้น เช่น 
    • จับของได้แน่นและมั่นคงขึัน
    • ปาของได้แต่ยังไม่มีการกำหนดเป้าหมายการปา
    • ส่งของจากมือซ้ายไปขวาและขวาไปซ้ายได้ รวมถึงถ้าของใหญ่ก็จับ 2 มือเลยได้แล้ว
    • นั่งได้อย่างมั่นคงโดยไม่ล้ม(ง่ายๆ)
    • พลิกคว่ำพลิกหงายได้อย่างรวดเร็ว (มากจนป่าป๊าและหม่าม้าจับไม่ทัน)
        แต่ที่ใหม่ๆ ก็มีนิดหน่อยนะครับ เช่น 2 ภาพข้างล่างนี้เลยครับ



    เอาเท้ามาดูดได้ด้วยนะครับ


    สังเกตที่ลิ้นนะครับ
         พอดูออกไหมครับ ภาพแรกอิงอุ่นแสดงวิชาตัวอ่อนให้ดูโดยการเอาเท้ามาดูดเล่นครับ ส่วนภาพที่ 2 เรียกว่าอะไรดีละครับ เล่นลิ้นหรือ พลิกลิ้นดี คือว่าอิงอุ่นสามารถพลิกลิ้นให้อยู่แนวตั้งได้ อันนี้พาเอาป่าป๊ากับหม่าม้าถึงกับงง เพราะป่าป้ากะหม่าม้าก็ทำไมได้ทั้งคู่ ครับผม

    อาหารเสริมก็ทานได้ดีนะครับตอนนี้ผมทานได้หลายอย่างแล้วนะครับโดยที่ไม่มีอาการแพ้เลย ดังนี้ครับ
    • ตำลึง
    • ผักโขม
    • ไข่แดง
    • บรอคโครี่
    • ฟักทอง
    • แครอท
    • ตับไก่
    • กล้วยน้ำว้า
    • ข้าว
    • ซุป หัวไชเท้า
    • ซุป กระดูกหมู
        ด้านสังคมนะครับอิงอุ่นเพลินกับของเล่นที่หม่าม้าซื้อมามากมายเลยครับ (อันนี้ถ้าจะเล่าว่ามีอะไรบ้างคงจะยาว ไว้เปิดประเด็นใหม่แล้วเล่าให้ฟังดีกว่าครับ) รวมทั้งยังสามารถคิดเกมส์เล่นจ๊ะเอ๋ เองได้ด้วยครับ คือว่าผู้ใหญ่ชอบเล่นจ๊ะเอ๋โดยการซ่อนแล้วโพล่หน้ามา ผมเลยคิดว่าเกมส์นี้ต้องเล่นโดยผมมองไม่เห็นหน้าเขาซักพักแล้วก็มาเจอกัน อิงอุ่นก็เลยเล่นแบบนี้เลยครับ ดู VDO นะครับ





         เดือนนี้อิงอุ่นได้เจอพี่ๆที่ เสนาหลายคนเลยครับ เริ่มจากเจ๊เจน ที่เอากำไรข้อเท้ามาให้นะครับ

    เจ๊เจนมาให้กำไรข้อเท้าครับ

        นอกจากนี้ยังมีเจ๊มุกกับพี่แบมด้วยครับ มาเล่นกันที่บ้านที่เสนากับผมอยู่หลายชั่วโมง
    เจ๊มุกกับพี่แบมมาเยี่ยมที่บ้านครับ




    สถานที่ที่ไปมาตลอดเดือนนี้มีดังนี้ครับ
     1. ไปเยี่ยมอากง

    3rd Generation


    2. ไปสยามพารากอน เจอพี่ๆ เพือนในเวปของผมครับ

    3.ไปไหว้พระที่วัดเล่งเนยยี่ กับหม่าม้าและป่าป๊านะครับ


        ก่อนจะจบสรุปเหตุการณ์ประจำเดือนนี้นะครับผมอยากให้ดูท่าเม้มปากของผมซักหน่อยแล้วช่วยกันวิจารณ์นะครับว่าใครเม้มเท่กว่ากัน


    ใครเม้มปากน่ารักกว่ากันครับ หม่าม้าหรือผม


    เอาละครับไว้เร็วๆนี้จะมาเล่าใหม่นะครับ   สวัสดีครับ
    วันพฤหัสบดีที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2554
          ถึงลูงป้าน้าอา น้อง พี่ ทั้งหลายครับ อิงอุ่นครบ 7 เดือนแล้วครับ หลังจากเป็นหวัดเมื่อปลายเดือนที่แล้ว ทำให้การฉีดยารอบ 6 เดือนของอิงอุ่นต้องเลื่อนมา (จริงผมก็ไม่ค่อยอยากฉีดซักเท่าไหรครับ มันเจ็บ) ป่าป๊าบอกว่าการฉีดยาเหมือนการฝึกทหารภัยในตัวอิงอุ่นให้เข็มแข็งเวลามีศัตรูเข้ามาก็จะตั้งรับได้ทันแล้วเอาชนะได้เร็ว แล้วมันมีแบบฉีดแล้วไม่เจ็บไหมครับป่าป๊า T^T





         นอกจากการฉีดยาแล้ว เดือนนี้พัฒนาการของอิงอุ่นที่ต้องมาโม้ให้ฟังอย่างแรงเห็นจะเป็นการนั่งที่มั่นคง (เพราะตูดผมใหญ่) โดยไม่ต้องที่ใครคอยพยุง ซึ่งก็เพิ่งทำได้ในสัปดาห์สุดท้ายก่อนครบ 7 เดือนนี้เองครับ ดูใน VDO นี้เลยครับ





        ก่อนจากกันวันนี้ผมมี VDO ที่อิงอุ่นช่วยป่าป๊าออกกำลังกายมาให้ดูครับ ใครสนใจก็บอกป่าป๊าทำบ้างก็ได้นะครับ บ่ายบายครับผม


    วันอังคารที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2554
    มาสั้นๆนะครับ พอดีหม่าม้าอยากเห็นอิงอุ่นแบบมุมเดียวกันเป็นเดือนๆไป อิงอุ่นเลยต้องหาภาพของตัวเองอยู่นานเลยครับกว่าจะเลือกมาได้แบบนี้

    วันอาทิตย์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2554
    สวัสดีครับ
       ต้องขออภัยที่หายไปซะนานมาก จนเกือบจะ 7 เดือนแล้ว ถึงค่อยเข้ามาเขียน พอดีเดือนที่แล้วอิงอุ่นไม่ค่อยว่างครับ มัวแต่ไปช่วยหม่าม้าสอนพี่ๆ ที่อยุธยาอยู่ แล้วก็กลับมาเล่นของเล่นชิ้นโปรดที่ได้รับมรดกมา ตามที่เขียนให้อ่านแล้วนะครับ แล้วสุดท้ายก็จบด้วยการเป็นหวัดไปซะอีกรอบ กว่าจะว่างมาเขียนก็ล่วงเลยมาจนป่านนี้แหละครับ

    บรรยายกาศคอร์สติวที่อิงอุ่นไปช่วยพี่ๆครับ
     
       เอาละครับมาเข้าเรื่องเลยดีกว่า ผมขอเริ่มด้วยเรื่องสุขภาพและพัฒนาการของผมก่อนนะครับ สรุปได้ว่าเดือนนี้ผมแข็งแรงขึ้นโดยลำดับดูกราฟน้ำหนักล่าสุดนะครับ
    • น้ำหนักชั่งเมื่อ 17 มี.ค.54 นะครับ อย่างที่เห็นนะครับตอนนี้น้ำหนักของผมเริ่มวกกลับเข้ามาสู่เกณฑ์ปกติแล้ว ซึ่งป้าหมอก็บอกว่าสัมพันธ์กันทั้งส่วนสูงและน้ำหนัก แล้วก็ยังอยู่เกณฑ์บนอยู่ 
    • เส้นผมที่ขึ้นเต็มหัวแล้วตอนนี้ออกเป็นสีน้ำตาล ยาวประมาณ 2.5 ซม โดยเฉลี่ย
    • กล้ามเนื้อคอและหลังแข็งแรงแล้วสามารถพลิกคว่ำจากหงายและนอนหงายจากท่าคว่ำได้อย่างคล่องแคล่ว
    • มือ 2 ข้างหยิบจับได้อย่างแม่นยำ สามารถส่งของจากมือหนึ่งไปอีกมือหนึ่งได้ และบางทีก็ใช้ 2 มือช่วยกันจับของชิ้นใหญ่ๆ ได้ด้วย
    • ชอบมองของตก ยิ่งถ้าเป็นลูกบอลจะหัวเราะชอบใจใหญ่เลย
    • เท้าขยับได้ตามใจมากขึ้น บ่อยครั้งผมก็เอามือไปจับเท้าตัวเองมาโยกเล่น
    • มีคางเป็น 2 ชั้น (อันนี้เป็นพัฒนาเกิน)ครับ 
    • ก่อนครบ 6 เดือนเล็กน้อย หม่าม้ากะป่าป๊า ปรึกษากันแล้วตกลงว่าจะเริ่มอาหารเสริมกัน ก่อน 6 เดือน เพื่อความคุ้นเคย เวลาครบ 6 เดือนจะได้กินได้เลย ไม่ต้องมาหัดใหม่ ตอนนี้ อิงอุ่นก็กินอาหารเสริมได้หลายอย่างแล้ว เช่น
      • กล้วย
      • ฟักทอง
      • ข้าวตุ้น กับน้ำต้มกระดูกหมู
      • ใบตำลึง
                     การกินอาหารเสริมก็ทำตามคำแนะนำของป้าหมอนะครับโดยเริ่มที่ละอย่าง อย่างๆละ 3-4วันแล้วค่อยเพิ่มอย่างอื่นเข้าไป วันละที่ละเล็กทีละน้อย กว่าจะการป้อนได้แต่ละวันก็อาการเป็นแบบข้างล่างนี้แหละครับ



    ด้านสังคม เดือนนี้ป่าป๊ากะหม่าม้าพาอิงอุ่นไปหลายที่เลยครับเริ่มจากสวนรถไฟ
    อันนี้หม่าม้าพาไปบอกว่าจะพาไปเล่นกับพี่ๆ ในเวป ปรากฏว่าไปแล้วหาใครไม่เจอเลย ก็เลยถ่ายรูปแก้เก่อมาอวดกันครับ อิ อิ

    นอกจากนี้ก็ไปงานแต่งงานของคุณลุงประเทือง พี่ที่ทำงานป่าป้านะครับ ก่อนไปก็เอาชุดออกมาเตรียมใส่สักหน่อย 
    ก็ดูหล่อดีใช่ไหมละครับ แต่ชุดนี้หม่าม้าเตรียมไว้ให้ผมตั้งนานแล้วบอกว่าสำหรับเด็ก 6 เดือน พอผมมาใส่ปรากฏว่ามันรัดเป้าจนหายใจไม่ออกเลยครับ ดูได้แต่ท่อนบนนะครับ ท่อนล่างเลยต้องโป๋ไว้แบบนี้
    "ไม่ได้การซะแล้ว" หม่าม้าบอกพร้อมกับจัดแจงหาชุดใหม่ให้ไปงานคุณลุงได้สมความมุ่งหมายดังนี้เลยครับ

    ดูดีขึ้นยังครับ หล่อเลยล่ะ แต่กว่าจะแต่งได้เล่นเอาป่าป๊าเหงื่อแตกเพราะชิ้นส่วนมันเยอะจัง พอแต่งเสร็จไปงานก็มีแต่คนมาหอมมาจูบ ผมเลยติดหวัดทางมาทางแก้มอีกรอบนึงเลยครับ เป็นรอบที่ 2


    สรุปเรื่องราวเดือนที่ 6 ก็เพียงเท่านี้ก่อนนะครับ อีกไม่กี่วันก็จะมาเล่าเรื่องเดือนที่ 7 ให้ฟังแล้วนะครับ
    วันจันทร์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2554
    พอดียังไม่ค่อยว่างเขียนเรื่องราวเมื่อครบ 6 เดือนของผมนะครับ เลยขอมาคั่นเวลาให้หายคิดถึงกันก่อน โดยผมขอแนะนำของเล่นชิ้นโปรดตอนนี้นะครับ


    ความจริงของเล่นนี้ได้มรดกมาจากพี่แฝดตอน 4 เดือนตามที่เล่าให้ฟังแล้วนะครับ(http://nuengauun.blogspot.com/2011/01/4.html) แต่หม่าม้าบอกว่ายังเล็กอยู่เลยยังไม่ให้เล่น เพิ่งจะให้เล่น 1-2อาทิตย์นี้เองครับ พอดีสนุกมากเลยมาเล่าให้ฟังครับ

    เล่นทุกวันจนลืมเขียนเล่าเหตุการณ์ช่วง 6 เดือนเลยครับ นี้ก็เลยมาหลายวัน ไว้จะรีบเขียนนะครับ
    วันจันทร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
    สวัสดีครับ ทุกท่าน
        พอดีอิงอุ่นต้องติดตามหม่าม้าไปติวพวกพี่ๆ สอบเข้า ม.1 ประจำปี 53 เลยกลับมาเล่าเหตุการณ์ต่างๆให้ ทุกท่านฟังช้าไปหน่อยคงต้องขออภัยนะครับ
        เริ่มเรื่องเลยดีกว่า   เอาเรื่อง สุขภาพของหนูน้อยอิงอุ่นก่อนแล้วกันนะครับ หลังจากอิงอุ่นหายจากไม่สบายไปเมื่อเดือนที่แล้ว ก็มีสุขภาพแข็งแรงดี พร้อมทั้งมีพัฒนาการด้านร่ายกายเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เรียงลำดับจากหัวลงไปเลยตามนี้นะครับ
    •      เส้นผมของอิงอุ่นขึ้นเต็มหัวแล้วครับและยาวขึ้นโดยเฉลี่ยประมาณ 1.5 ซม.ทั้งหัว (ผมเส้นยาวที่ยังหลงเหลือมาตั้งแต่เกิด 1 เส้น ก็ยังอยู่ตอนนี้ยาวเกือบ 5 ซม.แล้วครับ) 
    •      ขนตายาวประมาณ 8 มม. หนามากๆ (แต่หม่าม้ายังรู้สึกว่ายังไม่ค่อยงอนเท่าไหร) 
    •      อิงอุ่นสามารถคว่ำได้เอง คล่องแคล้วมากขึ้น สามารถดึงแขนข้างที่ถูกทับออกได้เองแล้ว และยังชันคออยู่ในท่าคว่ำได้นานมากๆ
    •      ถ้าเอามือป่าป๊าหรือหม่าม้า มาให้จับอิงอุ่นจะดึงตัวจากท่านอนขึ้นมาเกือบจะน้่งได้
    •      ผมสามารถควบคุมมือได้แม่นยำขึ้น คว่ำจับ และดึงเข้ามาหาตัวได้ดี
    •      ตอนโดยอุ้ม อิงอุ่นจะเหยียดขา แล้วยันทำท่าเหมือนยึน พอวางกับเตียงหรือพื้นก็จะโดด ไม่ยอมหยุด
    •      บางทีก็มีเป่าปาก แบบ vdo ข้างล่างนี้นะครับ 





    •      น้ำหนักโดยประมาณเมื่อ ตอน 5 เดือนเต็ม น่าจะประมาณ 8.1 กก เกินเกณฑ์นิดหน่อยตามภาพคับผม 

    นน.ประมาณเมื่อตอน 5 เดือนครับผม
    •    เนื่องจากปลายเดือนที่ 4 ป่วยซะหลายวัน การฉีดวัคซีนของผมเลยต้องเลื่อนมาเป็นเดือนนี้ เจ็บอย่าบอกใครเลยครับ ต้องฉีดที่หน้าขา 2 เข็ม (ปกติฉีดเข็มเดียว แต่หม่าม้าอยากให้ผมมีภูมิคุ้มกัน IPD ด้วยเลยให้ฉีดเพิ่ม หม่าม้าบอกฉีดไปเถอะ หม่าม้าไม่เจ็บ อ้าวววววววว) ดูvdo กันนะครับ




    ด้านสังคม เนื่องจากเดือนนี้ (ม.ค.54 ) เป็นเดือนเกิดของหม่าม้า อิงอุ่นเลยได้ไปวัดระฆังฯ เพื่อปล่อยปลากับป่าป๊าและหม่าม้า นอกจากนี้ยังได้ไปโชว์ตัวให้ อากงเห็นเป็นครั้งแรก อากงชอบใหญ่เลย

    ให้อากงอุ้มครั้งแรกในชีวิต




    พออากงดูตัวเสร็จแล้ว ก็ไปแวะบ้านคุณย่า เจอลุงๆป้าๆ เต็มไปหมด ที่อิงอุ่นชอบเล่นด้วยมากที่สุดเห็นจะเป็น ป้าม้อนะครับ เห็นหน้าแล้วหัวเราะไม่ยอมหยุด

    นอกจากนี้อิงอุ่นก็ชอบให้ป่าป๊าอ่านหนังสือให้ฟังด้วย ซึ่งก็เป็นเรื่องซ้ำๆ แต่ก็สนุกทุกครั้งเลยครับ




    เอาล่ะครับวันนี้แค่นี้แล้วกันคับเดี๋ยวเดือนหน้าผมจะมาเล่าให้ทุกท่านฟังใหม่นะครับ สำหรับเดือนนี้ขอลาไปด้วย VDO หัวเราะแบบ non-stop โดยหนูน้อยอิงอุ่นนะครับ







    วันพฤหัสบดีที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2554
    วันที่ 23 ม.ค.54 หม่าม้ากะป่าป๊า วางแผนพาอิงอุ่นไปทะเล เรียกยุทธการนี้ว่า "Operation Touch sand and sea"

    ภารกิจเริ่มขึ้น เวลา 1330 ของวันที่ 23 ม.ค.54 หม่าม้าจับอิงอุ่นแต่งตัวชุดหล่อ ไปๆมาๆ หม่าม้ากะป่าป๊ามาแต่งตัวเข้า Set กับอิงอุ่นด้วยเฉยเลย เลยกลายเป็นครอบครัวสีขาว-ส้มกันไป เริ่มพาอิงอุ่นออกเดินทาง ไม่นาน ประมาณ ชั่วโมงครึ่ง เวลา 1500 อิงอุ่นก็ถึงที่หมายเป็น ห้อง Suite ของ โรงแรม The Tide Resort บางแสน เป็นที่เรียบร้อย มาถึงก็ถ่ายภาพสักหน่อย


    ถ่ายกะหม่าม๊าในห้อง Suite
    หลังจากอิงอุ่นเดินดูห้องนอนก็พบว่าเขาวางพี่ช้างไว้บนเตียงด้วยแบบนี้


    แบบนี้ต้องถ่ายรูปกับพี่ช้างสักหน่อย

    ตอนแรกอิงอุ่นก็ถ่ายของหนูอยู่ดีๆ ป่าป๊ากะหม่าม้าเข้ามาแจมด้วยใหญ่เลย

    แต่อิงอุ่นไม่ได้นอนบนเตียงใหญ่หรอกครับ โรงแรมเขาเตรียมเตียงไว้ให้ผมแล้วน่ารักมากๆ


    บริเวณสระน้ำ
    มุมต่างๆของโรงแรม

    .......................จบภารกิจวันแรกหลังเข้านอน.......................

    24 ม.ค.54 (วันเริ่มปฏิบัตการ)

    มี VDO หม่าม้ากะป่าป๊าพาผมไป(ดูเขา)กินข้าวด้วยครับ


     


    และแล้วเวลาสำคัญก็มาถึง ดูภาพการปฏิบัติภารกิจของหนูน้อยอิงอุ่นได้เลยครับ

     

    *****Mission Accomplished*****

    สถานภาพหลังปฏิบัติภารกิจ "พร้อมปฏิบัติการต่อไปครับผม"
     บทเรียนจากการรบ (การเที่ยว)
    1. โรงแรมเตรียมที่นอนให้ เด็กไว้เมื่อร้องขอ แต่ที่นอนมีซี่ๆเต็มเลย ก็เลยกลัวว่าจะเอามือเอาขาเข้าไปขัด ครั้งต่อไปไม่ลำบากนักเตรียมไปเองจะดีกว่า
    2. ขวดนมแพ็คใส่ถุงZip lock ไป 3 ขวด หวุดหวิดไม่พอ ดีว่าหม่าม๊าบริหารจัดการเก่ง คราวหน้าเอาไปเยอะๆ ก็ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม
    3. อิงอุ่นเริ่มกินนมได้ทั้งๆที่ยังอยู่ใน Car Seat เป็นสัญญานว่ามี ระยะปฏิบัติการเพิ่มขึ้นแล้ว (คราวหน้าพาไปพัทยาซะเลย อิอิ)

    บทความที่ได้รับความนิยม


    Blog Archive

    จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

    ขับเคลื่อนโดย Blogger.